หมวด/ตัวชี้วัด |
หลักฐานการตรวจประเมิน |
หมวดที่ 6 การจัดซื้อและจัดจ้าง | |
6.1 การกำหนดนโยบายสิ่งแวดล้อม |
|
6.1.1 การจัดซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
|
|
6.1.2 ร้อยละของการจัดซื้อสินค้าประเภทวัสดุ อุปกรณ์ในสำนักงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หมายเหตุ ร้อยละของสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะเทียบกับปริมาณการซื้อ และ/หรือมูลค่าสินค้า 6.1.3 ร้อยละของปริมาณและประเภทของวัสดุอุปกรณ์ในสำนักงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม |
|
6.2 การจัดจ้าง | |
6.2.1 ร้อยละของการจัดจ้างหน่วยงานหรือบุคคลที่มีการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม |
|
6.2.2 ร้อยละของการตรวจสอบด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ปฏิบัติงานของหน่วยงานหรือ บุคคลที่เข้ามาดำเนินการ เช่น ผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างช่วง แม่บ้าน รปภ. พนักงานส่งเอกสาร เป็นต้น **หมายเหตุ (1) กรณีที่เป็นการว่าจ้างให้อยู่ประจำสำนักงาน จะต้องทำการประเมินอย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง (2) กรณีที่เป็นการว่าจ้างไม่อยู่ประจำสำนักงาน จะต้องทำการประเมินทุกครั้ง เมื่อเข้ามาปฏิบัติงานในสำนักงาน |
|
6.2.3 ร้อยละของการเลือกใช้บริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (นอกสำนักงาน) ได้แก่ โรงแรม สถานที่จัดงาน หรือ อื่นๆที่ได้มีการขึ้นทะเบียนการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม **หมายเหตุ : (1) สถานที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดการ สิ่งแวดล้อมที่ดี เช่น ISO14001 Green Hotel ใบไม้เขียว ฉลากเขียว Green Office หรือ Green Building เป็นต้น และมีการจัดการประชุมที่คำนึงถึงการรอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน และลดการ ก่อให้เกิดมลพิษ (2) ในกรณีที่ไม่มีสถานที่จัดประชุมที่ได้รับการ รับรองฯ อยู่ในบริเวณใกล้เคียง สำนักงาน จะต้องเลือกสถานที่ที่ใช้เวลาเดินทางน้อยที่สุด และจัดประชุม ในรูปแบบ Green Meeting (ตามความเหมาะสมและเป็นไปได้) โดยจะต้อง แสดงหลักฐานการคัดเลือกสถานที่ เหล่านั้น |
หมวด/ตัวชี้วัด |
หลักฐานการตรวจประเมิน |
หมวดที่ 5 สภาพแวดล้อมและความปลอดภัย | |
5.1 อากาศในสำนักงาน |
|
5.1.1 การควบคุมมลพิษทางอากาศในสำนักงาน |
|
5.1.2 มีการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่หรือมีการกำหนด พื้นที่สูบบุหรี่ที่เหมาะสมและปฏิบัติตามที่กำหนด (1) มีการรณรงค์การไม่สูบบุหรี่ (2) มีการติดสัญลักษณ์เขตปลอดบุหรี่ (3) มีการติดสัญลักษณ์เขตสูบบุหรี่ (4) เขตสูบบุหรี่จะต้องไม่อยู่ในบริเวณที่ก่อให้เกิด ความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนที่อยู่บริเวณ ข้างเคียง ไม่อยู่ในบริเวณทางเข้า ออกของ สถานที่ที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ และไม่อยู่ในบริเวณที่เปิดเผยอันเป็นที่เห็นได้ชัดแก่ผู้มาใช้สถานที่นั้น (5) ไม่พบการสูบบุหรี่ หรือก้นบุหรี่นอกเขตสูบบุหรี่ |
|
5.1.3 การจัดการมลพิษอากาศจากการก่อสร้าง ปรับปรุงอาคารหรืออื่นๆ ในสำนักงานที่ส่งผลต่อพนักงาน (1) กำหนดมาตรการรองรับเพื่อจัดการมลพิษ อากาศจากการก่อสร้างปรับปรุงอาคาร (2) ปฏิบัติตามมาตรการที่ได้กำหนดในข้อ(1) แนวทางการกำหนดมาตรการมีดังนี้ มีพื้นที่ทำงานสำรองให้กับพนักงานมีที่กั้นเพื่อกันมลพิษทางอากาศกระทบกับพนักงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมีการสื่อสารหรือติดป้ายแจ้งเตือน เพื่อการเตรียมความพร้อมและระวังการได้รับอันตราย |
|
5.2 แสงในสำนักงาน |
|
5.2.1 มีการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง (โดยอุปกรณ์การตรวจวัดความเข้มแสงที่ได้มาตรฐาน) และดำเนินการแก้ไขตามที่มาตรฐานกำหนด (1) มีการตรวจวัดความเข้มแสงประจำปีพร้อม แสดงหลักฐานผลการตรวจวัดแสงเฉพาะจุด ทำงานแลพื้นที่ทำงาน (2) เครื่องวัดแสงจะต้องมีมาตรฐานและได้รับการสอบเทียบ (แสดงหลักฐานใบรับรอง) (3) ผลการตรวจวัดจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานกฎหมายกำหนด (4) ผู้ที่ตรวจวัดความเข้มแสงจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด |
5.2 แสงในสำนักงาน คณะเศรษฐศาสตร์ มีการจัดการพื้นที่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนพื้นที่การปฏิบัติงานของบุคลากร และส่วนพื้นที่การให้บริการ ดังนั้นเพื่อให้การจัดการด้านแสงภายในสำนักงานมีความเหมาะสมกับการทำงานและการให้บริการ คณะฯ จึงได้ดำเนินการตรวจวัดความเข้มแสงสว่างตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยมีวิธีการดำเนินการดังต่อไปนี้
5.2.1 มีการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง (โดยอุปกรณ์การตรวจวัดความเข้มแสงที่ได้มาตรฐาน) และดำเนินการแก้ไขตามที่มาตรฐานกำหนด 5.2.1 (1) มีการตรวจวัดความเข้มแสงประจำปี พร้อมแสดงหลักฐานผลการตรวจวัดแสงเฉพาะจุดทำงานและพื้นที่ทำงาน ปี 2566 คณะเศรษฐศาสตร์ได้ขอความอนุเคราะห์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปี 2565 คณะเศรษฐศาสตร์ได้ขอความอนุเคราะห์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปี 2564 คณะเศรษฐศาสตร์ได้ขอความอนุเคราะห์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ในการนี้ คณะจึงได้นำข้อเสนอแนะปรับปรุงและทำการตรวจวัดแสง (ครั้งที่ 2) ในวันที่ 23 สิงหาคม 2564 โดยได้ขอความอนุเคราะห์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนวัฒน์ นิทัศน์วิจิตร บุคลากรสังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร/เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ระดับ หัวหน้า ทำการตรวจวัดแสง และเจ้าหน้าที่จากกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำทีมด้วย นายรัฐพล ปี 2563 คณะเศรษฐศาสตร์ได้ขอความอนุเคราะห์บุคลากรสังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร/เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ระดับ หัวหน้า ทำการตรวจวัดแสง และขอความอนุเคราะห์เครื่องวัดแสงจากงานอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ทำการตรวจวัดความเข้มแสง ในวันที่ 21 ตุลาคม 2563 ตรวจวัดความเข้มแสงจุดทำงานของบุคลากร จำนวน 29 จุด โดยอ้างอิงจาก ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง ประกาศ ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ในการกำหนดมาตรฐานของแสง พบว่า บางจุดมีระดับความเข้มของแสงสว่างที่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดและยังมีบางจุดที่มีระดับความเข้มของแสงสว่างไม่ผ่านเกณฑ์ หมายเหตุ : รายงานผลการตรวจวัดระดับความเข้มของแสงสว่าง ณ อาคารยรรยง สิทธิชัย คณะเศรษฐศาสตร์ ประจำปี 2565 , 2564 (ครั้งที่ 1) , 2564 (ครั้งที่ 2) 2563 , 2562
ภาพบรรยากาศการตรวจวัดความเข้มของแสง ประจำปี พ.ศ. 2566
ภาพบรรยากาศในการประชุมหารือเกี่ยวกับผลตรวจวัดความเข้มของแสงร่วมกับทีมงานจากกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม (วันที่ 26 ตุลาคม 2566)
ภาพบรรยากาศการตรวจวัดความเข้มของแสง ประจำปี พ.ศ. 2565
ภาพบรรยากาศในการประชุมหารือเกี่ยวกับผลตรวจวัดความเข้มของแสงร่วมกับทีมงานจากกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ปี 2565 (วันที่ 6 กันยายน 2565)
ภาพบรรยากาศการตรวจวัดความเข้มของแสง ประจำปี 2564 (ครั้งที่ 1)
ภาพบรรยากาศการตรวจวัดความเข้มของแสง ประจำปี 2564 (ครั้งที่ 2)
ภาพบรรยากาศการตรวจวัดความเข้มของแสง ประจำปี 2563
5.2.1 (2) เครื่องวัดความเข้มแสงจะต้องมีมาตรฐานและได้รับการสอบเทียบ (แสดงหลักฐานใบรับรอง) ปี พ.ศ. 2566 กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าทำการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง
ภาพ รายละเอียดรับรองเครื่องวัดแสง Digital LUX Meter รุ่น LX-73 เครื่องตรวจวัดแสง และใบรับรอง ประจำปี 2565
ปี พ.ศ. 2565 กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าทำการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง
ภาพ รายละเอียดรับรองเครื่องวัดแสง Digital LUX Meter รุ่น LX-73 เครื่องตรวจวัดแสง และใบรับรอง ประจำปี 2565
ปี พ.ศ. 2564 กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าทำการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง ณ อาคารยรรยง สิทธิชัย คณะเศรษฐศาสตร์ โดยเป็นเครื่องของ Digicon รุ่น LX-1108 ซึ่งเป็นเครื่องที่ได้รับมาตรฐาน
ภาพ รายละเอียดรับรองเครื่องวัดแสง LX-1108 เครื่องตรวจวัดแสง ประจำปี 2564 ในปี พ.ศ.2563 คณะเศรษฐศาสตร์ได้ขอความอนุเคราะห์เครื่องวัดความเข้มแสงจากกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม โดยเป็นเครื่องของ Digicon รุ่น LX-73 ซึ่งเป็นเครื่องที่ได้รับมาตรฐาน
ภาพ เครื่องตรวจวัดแสง ประจำปี 2563
ภาพ ใบรับรองเครื่องวัดแสง LX-73
5.2.1(3) ผลการตรวจวัดจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ตามที่คณะฯ ได้ตรวจวัดความเข้มของแสงสว่างในห้องสำนักงานคณบดีในปี 2562 ซึ่งพบว่าไม่ผ่านเกณฑ์ จำนวน 29 จุด ผ่านเกณฑ์ จำนวน 3 จุด และได้รับข้อเสนอแนะให้ติดตั้งโคมแสงสว่างประจำจุดที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด โดยคณะเศรษฐศาสตร์ได้ดำเนินการจัดซื้อโคมไฟตั้งโต๊ะให้แก่จุดที่แสงสว่างไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และปรับการเปิดม่านรับแสงที่เข้ามาในสำนักงานเพื่อเพิ่มความสว่างในห้องสำนักงานเพิ่มขึ้น และทำการทดสอบความเข้มของแสงสว่างอีกครั้งในปี 2563 พบว่าบางจุดมีความเข้มของแสงสว่างผ่านมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดมากขึ้น ทำให้ผลการตรวจวัดความเข้มแสงในปี 2563 - 2565 ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดเกือบทุกจุด ยกเว้นในจุดที่เป็นจุดอับของแสง แม้ว่าคณะจะทำการจัดซื้อโคมไฟตั้งโต๊ะเพื่อให้แสงสว่างแล้วก็ตาม ประกอบกับโครงสร้างของอาคาร เป็นอาคารที่มีเพดานยกสูง ทำให้แสงที่ส่องมายังโต๊ะทำงานของบุคลากร ได้รับแสงไม่เพียงพอ และโคมไฟตั้งโต๊ะทำงานมีลักษณะแสงไม่เพียงพอ อาจต้องทำการปรับเปลี่ยนโคมไฟที่มีแสงสว่างมากขึ้น ในปี 2566
5.2.1(4) ผู้ที่ตรวจวัดความเข้มแสงจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คณะเศรษฐศาสตร์ได้เชิญผู้ตรวจวัดความเข้มแสง ที่มีคุณสมบัติตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน คือ ผศ.ดร.ชนวัฒน์ นิทัศน์วิจิตร เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพ (จป)
5.2 แสงในสำนักงาน คณะเศรษฐศาสตร์ มีการจัดการพื้นที่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนพื้นที่การปฏิบัติงานของบุคลากร และส่วนพื้นที่การให้บริการ ดังนั้นเพื่อให้การจัดการด้านแสงภายในสำนักงานมีความเหมาะสมกับการทำงานและการให้บริการ คณะฯ จึงได้ดำเนินการตรวจวัดความเข้มแสงสว่างตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยมีวิธีการดำเนินการดังต่อไปนี้
5.2.1 มีการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง (โดยอุปกรณ์การตรวจวัดความเข้มแสงที่ได้มาตรฐาน) และดำเนินการแก้ไขตามที่มาตรฐานกำหนด 5.2.1 (1) มีการตรวจวัดความเข้มแสงประจำปี พร้อมแสดงหลักฐานผลการตรวจวัดแสงเฉพาะจุดทำงานและพื้นที่ทำงาน ปี 2566 คณะเศรษฐศาสตร์ได้ขอความอนุเคราะห์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปี 2565 คณะเศรษฐศาสตร์ได้ขอความอนุเคราะห์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปี 2564 คณะเศรษฐศาสตร์ได้ขอความอนุเคราะห์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ในการนี้ คณะจึงได้นำข้อเสนอแนะปรับปรุงและทำการตรวจวัดแสง (ครั้งที่ 2) ในวันที่ 23 สิงหาคม 2564 โดยได้ขอความอนุเคราะห์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนวัฒน์ นิทัศน์วิจิตร บุคลากรสังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร/เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ระดับ หัวหน้า ทำการตรวจวัดแสง และเจ้าหน้าที่จากกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำทีมด้วย นายรัฐพล ปี 2563 คณะเศรษฐศาสตร์ได้ขอความอนุเคราะห์บุคลากรสังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร/เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ระดับ หัวหน้า ทำการตรวจวัดแสง และขอความอนุเคราะห์เครื่องวัดแสงจากงานอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ทำการตรวจวัดความเข้มแสง ในวันที่ 21 ตุลาคม 2563 ตรวจวัดความเข้มแสงจุดทำงานของบุคลากร จำนวน 29 จุด โดยอ้างอิงจาก ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง ประกาศ ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ในการกำหนดมาตรฐานของแสง พบว่า บางจุดมีระดับความเข้มของแสงสว่างที่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดและยังมีบางจุดที่มีระดับความเข้มของแสงสว่างไม่ผ่านเกณฑ์ หมายเหตุ : รายงานผลการตรวจวัดระดับความเข้มของแสงสว่าง ณ อาคารยรรยง สิทธิชัย คณะเศรษฐศาสตร์ ประจำปี 2565 , 2564 (ครั้งที่ 1) , 2564 (ครั้งที่ 2) 2563 , 2562
ภาพบรรยากาศการตรวจวัดความเข้มของแสง ประจำปี พ.ศ. 2566
ภาพบรรยากาศในการประชุมหารือเกี่ยวกับผลตรวจวัดความเข้มของแสงร่วมกับทีมงานจากกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม (วันที่ 26 ตุลาคม 2566)
ภาพบรรยากาศการตรวจวัดความเข้มของแสง ประจำปี พ.ศ. 2565
ภาพบรรยากาศในการประชุมหารือเกี่ยวกับผลตรวจวัดความเข้มของแสงร่วมกับทีมงานจากกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ปี 2565 (วันที่ 6 กันยายน 2565)
ภาพบรรยากาศการตรวจวัดความเข้มของแสง ประจำปี 2564 (ครั้งที่ 1)
ภาพบรรยากาศการตรวจวัดความเข้มของแสง ประจำปี 2564 (ครั้งที่ 2)
ภาพบรรยากาศการตรวจวัดความเข้มของแสง ประจำปี 2563
5.2.1 (2) เครื่องวัดความเข้มแสงจะต้องมีมาตรฐานและได้รับการสอบเทียบ (แสดงหลักฐานใบรับรอง) ปี พ.ศ. 2566 กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าทำการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง
ภาพ รายละเอียดรับรองเครื่องวัดแสง Digital LUX Meter รุ่น LX-73 เครื่องตรวจวัดแสง และใบรับรอง ประจำปี 2565
ปี พ.ศ. 2565 กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าทำการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง
ภาพ รายละเอียดรับรองเครื่องวัดแสง Digital LUX Meter รุ่น LX-73 เครื่องตรวจวัดแสง และใบรับรอง ประจำปี 2565
ปี พ.ศ. 2564 กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าทำการตรวจวัดความเข้มของแสงสว่าง ณ อาคารยรรยง สิทธิชัย คณะเศรษฐศาสตร์ โดยเป็นเครื่องของ Digicon รุ่น LX-1108 ซึ่งเป็นเครื่องที่ได้รับมาตรฐาน
ภาพ รายละเอียดรับรองเครื่องวัดแสง LX-1108 เครื่องตรวจวัดแสง ประจำปี 2564 ในปี พ.ศ.2563 คณะเศรษฐศาสตร์ได้ขอความอนุเคราะห์เครื่องวัดความเข้มแสงจากกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม โดยเป็นเครื่องของ Digicon รุ่น LX-73 ซึ่งเป็นเครื่องที่ได้รับมาตรฐาน
ภาพ เครื่องตรวจวัดแสง ประจำปี 2563
ภาพ ใบรับรองเครื่องวัดแสง LX-73
5.2.1(3) ผลการตรวจวัดจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ตามที่คณะฯ ได้ตรวจวัดความเข้มของแสงสว่างในห้องสำนักงานคณบดีในปี 2562 ซึ่งพบว่าไม่ผ่านเกณฑ์ จำนวน 29 จุด ผ่านเกณฑ์ จำนวน 3 จุด และได้รับข้อเสนอแนะให้ติดตั้งโคมแสงสว่างประจำจุดที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด โดยคณะเศรษฐศาสตร์ได้ดำเนินการจัดซื้อโคมไฟตั้งโต๊ะให้แก่จุดที่แสงสว่างไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และปรับการเปิดม่านรับแสงที่เข้ามาในสำนักงานเพื่อเพิ่มความสว่างในห้องสำนักงานเพิ่มขึ้น และทำการทดสอบความเข้มของแสงสว่างอีกครั้งในปี 2563 พบว่าบางจุดมีความเข้มของแสงสว่างผ่านมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดมากขึ้น ทำให้ผลการตรวจวัดความเข้มแสงในปี 2563 - 2565 ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดเกือบทุกจุด ยกเว้นในจุดที่เป็นจุดอับของแสง แม้ว่าคณะจะทำการจัดซื้อโคมไฟตั้งโต๊ะเพื่อให้แสงสว่างแล้วก็ตาม ประกอบกับโครงสร้างของอาคาร เป็นอาคารที่มีเพดานยกสูง ทำให้แสงที่ส่องมายังโต๊ะทำงานของบุคลากร ได้รับแสงไม่เพียงพอ และโคมไฟตั้งโต๊ะทำงานมีลักษณะแสงไม่เพียงพอ อาจต้องทำการปรับเปลี่ยนโคมไฟที่มีแสงสว่างมากขึ้น ในปี 2566
5.2.1(4) ผู้ที่ตรวจวัดความเข้มแสงจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คณะเศรษฐศาสตร์ได้เชิญผู้ตรวจวัดความเข้มแสง ที่มีคุณสมบัติตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน คือ ผศ.ดร.ชนวัฒน์ นิทัศน์วิจิตร เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพ (จป)
|
5.3 เสียง |
|
5.3.1 การควบคุมมลพิษทางเสียงภายในอาคาร สำนักงาน (1) กำหนดมาตรการรองรับเพื่อจัดการเสียงดังที่มาจากภายในสำนักงาน (2) ปฏิบัติตามมาตรการที่ได้กำหนดในข้อ(1) ถ้าพบว่ามีเสียงดังที่มาจากภายในสำนักงาน |
|
5.3.2 การจัดการเสียงดังจากการก่อสร้าง ปรับปรุงอาคารหรืออื่นๆ ในสำนักงาน ที่ส่งผลต่อพนักงาน (1) กำหนดมาตรการรองรับเพื่อจัดการเสียงดังที่ เกิดจากการก่อสร้างปรับปรุงอาคาร (2) ปฏิบัติตามมาตรการที่ได้กำหนดในข้อ(1) ถ้าพบว่ามีเสียงดังที่มาจากภายนอกสำนักงาน แนวทางการกำหนดมาตรการ มีดังนี้ – มีพื้นที่ทำงานสำรองให้กับพนักงาน – มีการสื่อสารหรือติดป้ายแจ้งเตือน เพื่อการเตรียมความพร้อมและระวังการได้รับอันตราย |
|
5.4 ความน่าอยู่ |
|
5.4.1 มีการวางแผนจัดการความน่าอยู่ของ สำนักงานโดยจะต้องดำเนินการดังนี้ (1) จัดทำแผนผังของสำนักงานทั้งในตัวอาคารและ นอกอาคาร โดยจะต้องกำหนดพื้นที่ใช้งานอย่างชัดเจน เช่น พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ พื้นที่สีเขียว พื้นที่ส่วนรวมและพื้นที่ทำงาน เป็นต้น สามารถสื่อสารด้วยป้ายหรืออื่นๆ ที่เหมาะสมเพื่อบ่งชี้ (2) มีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบอย่าง เหมาะสมทั้งพื้นที่เฉพาะและพื้นที่ทั่วไป ทั้งใน อาคารและนอกอาคาร (3) มีการกำหนดเวลาในการดูแลรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งพื้นที่เฉพาะและพื้นที่ทั่วไป ทั้งในอาคารและนอกอาคาร (4) การกำหนดแผนงานการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และคงรักษาไว้ของสำนักงานรวมไปถึงมีการปฏิบัติ จริงตามแผนงาน |
|
5.4.2 ร้อยละการใช้สอยพื้นที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่สำนักงานกำหนด | |
5.4.3 ร้อยละการดูแลบำรุงรักษาพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่สีเขียว พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ พื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ทำงาน เป็นต้น | |
5.4.4 มีการควบคุมสัตว์พาหะนำโรคและดำเนินการได้ตามที่กำหนด (1) มีการกำหนดแนวทางการป้องกันสัตว์พาหะนำโรคในสำนักงานอย่างเหมาะสม ได้แก่ นกพิราบ หนู แมลงสาบ และอื่นๆ (2) มีการกำหนดความถี่ในการตรวจสอบร่องรอยสัตว์พาหะนำโรคอย่างน้อยที่สุดเดือนละ ๑ ครั้ง (3) มีการตรวจสอบร่องรอยตามความถี่ที่ได้กำหนด (เฉพาะตอนกลางวัน) (4) มีแนวทางที่เหมาะสมกับการจัดการเมื่อพบร่องรอยสัตว์พาหะนำโรค (5) ไม่พบร่องรอยหรือสัตว์นำโรคในระหว่างการตรวจประเมินของกรมฯ หมายเหตุ : การควบคุมสัตว์พาหะนำโรค สำนักงานสามารถควบคุมและจัดการได้เอง หรือว่าจ้างหน่วยงานเฉพาะมาดำเนินการแทน |
|
5.5 การเตรียมพร้อมต่อสภาวะฉุกเฉิน |
|
5.5.1 การอบรมฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ตามแผนที่กำหนด (1) มีการกำหนดแผนการฝึกอบรมและอพยพหนีไฟ (2) จำนวนคนเข้าอบรมฝึกซ้อมดับเพลิงขั้นต้น จะต้องไม่ต่ำกว่า ร้อยละ ๔๐ ของพนักงานทั้งหมด (3) พนักงานทุกคนจะต้องเข้าฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง (4) มีการอบรมดับเพลิงขั้นต้นตามแผนที่กำหนด พร้อมแสดงหลักฐาน เช่น ใบรับรองการอบรม ภาพถ่าย เป็นต้น (5) มีการฝึกซ้อมอพยพตามแผนที่กำหนด พร้อมแสดงหลักฐาน เช่น ใบรับรอง ภาพถ่าย เป็นต้น (6) มีการจุดรวมพลที่สามารถรองรับได้ พร้อมมีป้ายแสดงอย่างชัดเจน (7) มีการกำหนดเส้นทางหนีไฟ ธงนำทางหนีไฟไปยังจุดรวมพลพร้อมสื่อสารในพื้นที่ปฏิบัติงาน (8) มีการกำหนดทางออกฉุกเฉิน ทางหนีไฟพร้อมมีป้ายแสดงอย่างชัดเจน |
|
5.5.2 มีแผนฉุกเฉินที่เป็นปัจจุบันและเหมาะสม และร้อยละของพนักงานที่เข้าใจแผนฉุกเฉิน (สุ่มสอบถามอย่างน้อย 4 คน) | |
5.5.3 ความเพียงพอและการพร้อมใช้งานของอุปกรณ์ระบบดับเพลิงและป้องกันอัคคีภัย และระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้และร้อยละของ พนักงานทราบวิธีการใช้และตรวจสอบอุปกรณ์ ดังกล่าว (สุ่มสอบถามอย่างน้อย 4 คน) (1) มีการติดตั้งและเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิง – ถังดับเพลิงมีเพียงพอต่อการใช้งาน (กำหนดระยะห่างอย่างน้อย 20 เมตร/ถัง ตามกฎหมาย ติดตั้งสูงจาก พื้นไม่เกิน 150 เซนติเมตร นับจากคันบีบและถ้าเป็นวางกับพื้นที่จะต้องมีฐานรองรับ) พร้อมกับติดป้ายแสดง – ติดตั้งระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิง (ถ้ามี) – สายฉีดน้ำดับเพลิงและตู้เก็บสายฉีด (Hose and Hose Station) ถ้ามี (2) ติดตั้งระบบสัญญาณแจ้งเตือนและต้องพร้อมใช้งาน – สัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (พื้นที่ มากกว่า 300 ตารางเมตรหรืออาคารสูงเกิน 2 ชั้นขึ้นไป) – ติดตั้งตัวดักจับควัน(smoke detector)หรือความร้อน (heat detector) (3) มีการตรวจสอบข้อ (1)-(2) และหากพบว่าชำรุดจะต้องดำเนินการแจ้งซ่อมและแก้ไข (4) พนักงานจะต้องเข้าใจถึงวิธีการใช้และตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงและสัญญาณแจ้ง เตือนอย่างน้อยร้อยละ 75 จากที่สุ่มสอบถาม (5) ไม่มีสิ่งกีดขวางอุปกรณ์ดับเพลิง และสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ |
หมวด/ตัวชี้วัด |
หลักฐานการตรวจประเมิน |
หมวดที่ 4 การจัดการของเสีย | |
4.1 การจัดการของเสีย |
|
4.1.1 มีการดำเนินงานตามแนวทางการคัดแยก รวบรวมและการจัดการขยะอย่างเหมาะสม |
|
4.1.2 การนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์หรือนำกลับมาใช้ใหม่ส่งผลให้ขยะที่จะส่งไปกำจัดมีปริมาณน้อยลง |
|
4.2 การจัดการน้ำเสีย |
|
4.2.1 การจัดการน้ำเสียของสำนักงาน และคุณภาพน้ำทิ้ง จะต้องอยู่ในมาตรฐานกฎหมายที่เกี่ยวข้อง |
|
4.2.2 การดูแลอุปกรณ์บำบัดน้ำเสีย โดยมีแนวทาง ดังนี้ |
หมวด/ตัวชี้วัด | หลักฐานการตรวจประเมิน |
หมวดที่ 3 การใช้ทรัพยากรและพลังงาน | |
3.1 การใช้น้ำ |
|
3.1.1 มาตรการหรือแนวทางใช้น้ำมีความเหมาะสมกับสำนักงานจะต้องประกอบไปด้วย รายละเอียดดังนี้ |
|
3.1.2 มีการจัดทำข้อมูลการใช้น้ำต่อหน่วยเปรียบเทียบกับเป้าหมาย การเก็บข้อมูล กรณีบรรลุเป้าหมาย (1) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้น้ำแต่ละเดือน (2) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้น้ำต่อหน่วย (3) บรรลุเป้าหมาย (4) สรุปสาเหตุที่นำไปสู่การบรรลุ เพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การเก็บข้อมูล กรณีไม่บรรลุเป้าหมาย (1) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้น้ำแต่ละเดือน (2) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้น้ำต่อหน่วย (3) มีการวิเคราะห์สาเหตุและแนวทางแก้ไข หมายเหตุ การเปรียบเทียบข้อมูลสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของหน่วย เช่น เปรียบเทียบต่อจำนวนพนักงาน หรือเปรียบเทียบต่อกิจกรรม หรือเปรียบเทียบต่อพื้นที่ เป็นต้น |
|
3.1.3 ร้อยละของการปฏิบัติตามมาตรการประหยัดน้ำในพื้นที่ทำงาน (ประเมินจากพฤติกรรมของบุคลากรในพื้นที่) |
|
3.2 การใช้พลังงาน |
|
3.2.1 มาตรการหรือแนวทางใช้ไฟฟ้าเหมาะสมกับสำนักงานจะต้องประกอบไปด้วย รายละเอียดดังนี้ (1) การสร้างความตระหนักในการใช้ไฟฟ้า (2) การกาหนดเวลาการใช้ไฟฟ้า เช่น เวลาการเปิด-ปิด เป็นต้น (3) การใช้พลังงานทดแทน (4) การเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า |
|
3.2.2 มีการจัดทำข้อมูลการใช้ไฟฟ้าต่อหน่วยเปรียบเทียบกับเป้าหมาย |
|
3.2.3 ร้อยละของการปฏิบัติตามมาตรการประหยัดไฟฟ้าในพื้นที่ทำงาน | |
3.2.4 มาตรการหรือแนวทางการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการเดินทางที่เหมาะสมกับสำนักงาน ดำเนินการดังนี้ |
|
3.2.5 มีการจัดทำข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่อหน่วยเปรียบเทียบกับเป้าหมาย การเก็บข้อมูล กรณีบรรลุเป้าหมาย (1) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละเดือน (2) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่อหน่วย (3) บรรลุเป้าหมาย (4) สรุปสาเหตุที่นำไปสู่การบรรลุ เพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การเก็บข้อมูล กรณีไม่บรรลุเป้าหมาย เปรียบเทียบต่อพื้นที่ หรือเปรียบเทียบต่อระยะทาง เป็นต้น (1) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละเดือน (2) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้น้ามันเชื้อเพลิงต่อหน่วย (3) มีการวิเคราะห์สาเหตุและแนวทางแก้ไข หมายเหตุ การเปรียบเทียบข้อมูลสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของหน่วย เช่น เปรียบเทียบต่อจำนวนพนักงาน หรือเปรียบเทียบต่อกิจกรรม |
|
3.3 การใช้ทรัพยากรอื่นๆ |
|
3.3.1 มาตรการหรือแนวทางการใช้กระดาษที่เหมาะสมกับสำนักงาน |
|
3.3.2 มีการจัดทำข้อมูลการใช้กระดาษต่อหน่วยเปรียบเทียบกับเป้าหมาย การเก็บข้อมูล กรณีบรรลุเป้าหมาย (1) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้กระดาษแต่ละเดือน (2) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้กระดาษต่อหน่วย (3) บรรลุเป้าหมาย (4) สรุปสาเหตุที่นำไปสู่การบรรลุ เพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การเก็บข้อมูล กรณีไม่บรรลุเป้าหมาย (1) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้กระดาษแต่ละเดือน (2) มีการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้กระดาษต่อหน่วย (3) มีการวิเคราะห์สาเหตุและแนวทางแก้ไข หมายเหตุ การเปรียบเทียบข้อมูลสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของหน่วย เช่น เปรียบเทียบต่อจานวนพนักงาน หรือเปรียบเทียบต่อกิจกรรม หรือเปรียบเทียบต่อพื้นที่ เป็นต้น |
|
3.3.3 ร้อยละของการปฏิบัติตามมาตรการ ประหยัดกระดาษในพื้นที่ทำงาน (ประเมินจากพฤติกรรมของบุคลากรในพื้นที่) |
|
3.3.4 มาตรการหรือแนวทางการใช้หมึกพิมพ์ อุปกรณ์เครื่องเขียน วัสดุอุปกรณ์เหมาะสมกับ สำนักงานจะต้องประกอบไปด้วย รายละเอียดดังนี้ (1) การสร้างความตระหนักในการใช้ (2) การกำหนดรูปแบบการใช้ (3) การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ |
|
3.3.5 ร้อยละของการดำเนินตามมาตรการประหยัด การใช้หมึกพิมพ์ อุปกรณ์เครื่องเขียน วัสดุอุปกรณ์สำนักงาน (ประเมินจากพฤติกรรมของบุคลากรในพื้นที่) | |
3.4 การประชุมและการจัดนิทรรศการ |
|
3.4.1 ร้อยละของการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการส่งข้อมูลเพื่อเตรียมการประชุม ได้แก่ QR code, Email, Social Network, Intranet เป็นต้น | |
3.4.2 การจัดการประชุมและนิทรรศการที่มีการใช้ วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรพลังงาน และลดของเสียที่เกิดขึ้น จะต้องดำเนินการ ดังนี้ |
หมวด/ตัวชี้วัด |
หลักฐานการตรวจประเมิน |
||||||||||||||||||||
หมวดที่ 2 การอบรมให้ความรู้และประเมินความเข้าใจ | |||||||||||||||||||||
2.1 การอบรมให้ความรู้และประเมินความเข้าใจ | |||||||||||||||||||||
2.1.1 กำหนดแผนการฝึกอบรม ดำเนินการอบรม การประเมินผล และบันทึกประวัติการฝึกอบรม |
2222222 | ||||||||||||||||||||
2.1.2 กำหนดผู้รับผิดชอบด้านการอบรมแต่ละหลักสูตรมีความเหมาะสม |
|
||||||||||||||||||||
2.2 การรณรงค์และประชาสัมพันธ์แก่พนักงาน | |||||||||||||||||||||
2.2.1 มีการกำหนดผู้รับผิดชอบและแนวทางสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกสำนักงาน (1) กำหนดหัวข้อและความถี่การสื่อสารอย่างน้อย ดังนี้
(2) กำหนดช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับหัวข้อการสื่อสารและองค์กร (ไม่จำกัดจำนวนช่องทาง) |
|
||||||||||||||||||||
2.2.2 มีการรณรงค์สื่อสารและให้ความรู้ตามที่กำหนดในข้อ 2.2.1 |
|
||||||||||||||||||||
2.2.3 ร้อยละความเข้าใจนโยบายสิ่งแวดล้อมและการดำเนินงานสำนักงานสีเขียว (สุ่มอย่างน้อย 4 คน) โดยจะต้องสอบถามพนักงานแต่ละคนอย่างน้อยตามข้อ 2.2.1(1) |
จากการสัมภาษณ์
|
||||||||||||||||||||
2.2.4 มีช่องทางรับข้อเสนอแนะ/ข้อคิดเห็นด้านสิ่งแวดล้อม และนำมาปรับปรุงแก้ไขโดยต้องมีแนวทาง ดังนี้ |